วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ยอดทวีตทะลุ 50 ล้านข้อความต่อวัน!!!

ทวิตเตอร์ (twitter) กำลังจัดการกับทวีต (Tweets) จากเหล่าบรรดาสมาชิกมากกว่า 50 ล้านข้อความต่อวัน ซึ่งหมายความว่า มันมีมากถึง 1.5 พันล้านทวีตต่อเดือนกันเลยทีเดียว โดยก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนธันวาคม ทวิตเตอร์เพิ่งผ่านยอดทวีตที่ 1 พันล้านไป และขยับขึ้นเป็น 1.2 พันล้านในเดือนมกราคม ทั้งนี้หากย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ยอดทวีตข้อความต่อวันอยู่ที่ 27 ล้าน เพียงแค่ 2 เดือนยอดทวีตมีอัตราการเติบโตเกือบเท่าตัวเลยก็ว่าได้

รายงานประจำเดือนมกราคมที่ผ่านมา ComScore ประเมินว่า Twitter.com มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 75 ล้านคน แต่จำนวนของข้อความที่เหล่าสมาชิกส่งหากันมีมากถึง 50 ล้านต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่แข็งแรงมาก มันดูเหมือนว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์ใช้บริการดังกล่าว เพื่อสื่อสารในระดับพื้นฐานอย่างแท้จริง

ทีมวิเคราะห์ของทวิตเตอร์โพสต์ข้อความในบล็อกว่า ในปี 2007 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ทั้งหมดเขียนข้อความ 5,000 ทวีตต่อวัน และขยับขึ้นเป็น 300,000 ทวีตต่อวันในปี 2008 ก่อนที่จะเป็น 2.5 ล้านทวีตต่อวันในปี 2009 ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา จำนวนทวีตมีการเติบโตถึง 1,400% คือ 35 ล้านต่อวัน แต่วันนี้ เรากำลังเห็นตัวเลขดังกล่าวเป็น 50 ล้านต่อวันแล้ว หรือเฉลีย 600 ทวีตต่อวินาที" อย่างไรก็ตาม ทางทวิตเตอร์ไม่ได้เปิดเผยว่า จากจำนวนทวีต 50 ล้านข้อความต่อวันนั้นมาจากผู้ใช้จำนวนเท่าใด หรือเฉลี่ยแล้วแต่ละคนส่งกี่ทวีตต่อวัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าว นอกจากจะทำให้เห็นภาพความสำเร็จทีชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยแยกประเภทกลุ่มผู้ใช้ทวิตเตอร์ออกมาได้อีกด้วย

ข้อมูลจาก: pcmag.com,arip

แซนดิสก์ผุดการ์ดหน่วยความจำ 64GB

รายงานข่าวล่าสุด แซนดิสก์ (SanDisk) บริษัทผู้ผลิตการ์ดหน่วยความจำชั้นนำได้เปิดตัวการ์ด Ultra SDXC SD รุ่นใหม่ที่มีความจุมากถึง 64GB เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่อย่างวิดีโอไฮเดฟฯ

ในงาน CES 2010 เมื่อเดือนที่แล้ว ทางพานาโซนิคก็เพิ่งจะแนะนำการ์ดหน่วยความจำ SDXC ที่มีความจุ 64GB เป็นเจ้าแรก ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบกล้องถ่ายรูป และกล้องบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง หรือ High-Definition อย่างไรก็ตาม ราคาเปิดของพานาโซนิคสำหรับการ์ดหน่วยความจำ 64GB อยู่ที่ 599.95 เหรียญฯ (ประมาณ 20,000 บาท) แต่สำหรับ Ultra SDXC 64GB ของแซนดิสก์ที่โดนตัดหน้าไปก่อนราคาเปิดถูกกว่าเกือบครึ่งหนึ่งคืออยู่ที่ 349.99 เหรียญฯ (ประมาณ 12,000 บาท)

"SDXC เป็นฟอร์แมตของการ์ดหน่วยความจำรุ่นใหม่ถัดจาก SDHC ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง" Susan Park ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ค้าปลีกของแซนดิสก์กล่าว "การ์ดหน่วยความจำ SanDisk Ultra SDXCความจุ 64GB จะสามารถให้ความเร็วที่มากพอต่อการบันทึกวิดีโอไฮเดฟ และยังได้รับการพัฒนาทางด้านความเร็วสำหรับการถ่ายภาพนิ่งอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการ์ดหน่วยความจำ SDXC ที่ได้ประกาศการรับรองถึงความเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับกล้องถ่ายรูป และกล้องบันทึกวิดีโอรุ่นต่างๆ มากมาย" การ์ดหน่วยความจำ Ultra SDXC สนับสนุนความเร็วในการเขียนข้อมูลได้สูงสุดที่ 15MB/s สำหรับความจุขนาด 64GB หมายถความว่า การ์ดรุ่นนี้สามารถบันทึกวิดีโอไฮเดฟด้วยความเร็ว 9Mbps ได้นานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ข้อมูลจาก: Hot Hardware,arip

ด่วน!!! พบบั๊กร้ายแรงใน Firefox 3.6

Integydis บริษัทผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยในรัสเซียได้ปล่อยโค้ดโจมตีช่องโหว่วิกฤตที่พบในเว็บบราวเซอร์เวอร์ชันล่าสุดของโมซิลล่า (Mozilla) นั่นก็คือ Firefox 3.6 โดยโค้ดังกล่าวสามารถกระตุ้นให้มันมีสิทธิ์ในการใช้พื้นทีหน่วยความจำ เพื่อสั่งรันโค้ดอันตรายจากบนเน็ตได้ ทั้งนี้ทางบริษัทยังได้พัฒนาเป็นโมดูล Vulndisco ในรูปแบบของส่วนเสริม (add-on) การทำงานของโปรแกรมสำหรับระบบที่สามารถนำไปใช้ได้โดยอัตโนมัติในซอฟต์แวร์ Immunity Canvas เพื่อขายให้กับผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย

"เราได้ทดลองเล่นกับช่องโหว่ดังกล่าวหลายครั้งภายในห้องวิจัยของเรา ซึ่งมันทำงานได้สำเร็จทุกครั้งไป" Evgeny Legerov ผู้ก่อตั้งบริษัท Intevydis ที่ตั้งอยู่ในกรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย "มันสามารถเข้าโจมตี Firefox 3.6 ที่ติดตั้งเข้าไปในเครื่องด้วยค่าดีฟอลต์ ซึ่งเราได้ทดสอบทั้งที่รันบนระบบปฏิบัติการ XP และ Vista" สำหรับบั๊กที่พบนี้จัดว่าเป็น Zero-Day เนื่องจากเป็นข้อผิดพลาดที่มีการเผยแพร่ก่อนที่ทางบริษัทเจ้าของซอฟต์แวร์จะได้จดทำแพตช์อุดช่องโหว่ออกมา

โมซิลล่าได้ออก Firefox 3.5.7 (สำหรับใครที่ยังไม่ได้อัพเกรดเป็น Firefox 3.6) ในระหว่างสัปดาห์ เพื่อป้องกันการโจมตีจากช่องโหว่ดังกล่าวที่อ้างว่า สามารถได้สิทธิ์ในการเข้าขโมยหน่วยความจำสำหรับรันโค้ดอันตรายได้ Legerov กล่าวว่า ข้อผิดพลาดที่ได้รับการแก้ไขใน Firefox 3.5.7 เป็นคนละแห่งที่ถูกใช้ห้องวิจัย อย่างไรก็ตาม โค้ดดังกล่าวจะได้ไปก็ต่อเมื่อซื้อชุดซอฟต์แวร์ข้างต้น ทางด้านโมโซิลล่าออกมาแถลงว่า "โมซิลล่าให้ความสำคัญกับช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า คำอ้างดังกล่าวเป็นจริง เราให้คุณค่ากับนักวิจัยระบบรักษาความปลอดภัยที่เปิดเผยช่องโหว่ และต้องการให้พวกเขาทำงานร่วมกับเรา เพื่อให้แน่ใจว่า ช่องโหว่ร้ายแรงได้รับการแก้ไขแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้"

ช้อมูลจาก: Inquirer,arip

ซัมซุงออก"กล้องวิดีโอพกพา"ซูม 3 เท่า

ช่วงนี้ดูเหมือนกระแสกล้องวิดีโอแบบพกพา (Pocket Camcorder) จะมาแรงเป็นพิเศษ หลังจากที่เมื่อเช้าเพิ่งแนะนำ HP V1020h ที่เปิดตัวในงาน PMA 2010 ช่วงบ่ายของวันนี้ ทางซัมซุง (Samsung) ก็เปิดตัวกล้องวิดีโอพกพาที่มีดีไซน์แบบ Flip ถึง 2 รุ่นด้วยกัน

ซัมซุง (Samsung) เปิดตัวกล้องแคมคอร์ดเดอร์ฟูลเอชดีแบบพกพาถึงสองรุ่น โดยรุ่น HMX-U20 จะมาพร้อมกับคุฒสมบัติเด่นคือ เลนส์ซูมที่สามารถขยายได้สูงสุดถึง 3 เท่า พร้อมเคเบิ้ลเชื่อมต่อ USB เพื่ออัพโหลดวิดีโอขึ้นไปบนพีซี นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันป้องกันภาพสั่นไหว (image stabilisation) ให้อีกด้วย

นอกจากด้านหน้าจะมีเลนส์ซูมขนาดใหญ่แล้ว ด้านหลังของมันจะประกอบด้วย LCD ขนาด 2 นิ้ว โดยเซ็นเซอร์ CMOS 1/2.3 นิ้วที่อยู่ภานยในสามารถจับภาพวิดีโอที่ความละเอียดได้ 1920 x 1080 พิกเซลที่อัตราเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที (Full HD) ด้วยเทคโนโลยีการบีบอัด H.264 แถมยังสามารถตั้งเวลาบันทึกทุกๆ 5 10 หรือ 30 วินาทีได้อีกด้วย ส่วนความสามารถในการถ่ายภาพนิ่งจะละเอียดถึง 10 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว

สำหรับ HMX-U15 จะมีราคาถูกกว่า และสามารถถ่ายภาพนิ่งที่ความละเอียดสูงกว่า ถึง 14 ล้านพิกเซล แต่แลกกับการไม่มีฟังก์ชันซูม ทั้งสองรุ่นสนับสนุนการใช้งานการ์ดหน่วยความจำ SD/SDHC สนนราคาของ U15 จะอยู่ที่ 229.99 เหรียญฯ (ประมาณ 7,800 บาท) ในขณะที่ U20 จะมีราคา 249.99 เหรียญฯ (ประมาณ 8,500 บาท)

ข้อมูลจาก: pcmag,arip

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Google กำลังจะทำให้คุณ "โง่" หรือไม่?

คุณผู้อ่านเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมครับว่า ผลจากการที่เอะอะพอไม่รู้อะไรเป็นต้องถามกูเกิ้ล (Google) ทันที จะส่งผลให้เรากลายเป็นคนขี้เกียจในการค้นคว้าข้อมูล หรือละเลยการใช้สมองเพื่อจดจำความรู้ต่างๆ ไป (เพราะกูเกิ้ลช่วยจำไว้ให้หมดแล้ว เพียงไม่กี่คลิกก็รู้) หากเป็นเช่นนี้ไปในานๆ ในที่สุดเราอาจจะโง่ลงก็ได้

ผลจากการศึกษาวิจัยโดย Pew Internet Research ในสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปออกมาว่า "กูเกิ้ลจะไม่ทำให้พวกเราโง่" โดยผลสรุปดังกล่าวได้จากการสอบถามนักคิด และผู้ทีอยู่ในธุรกิจเทคโนโลยี 895 รายในประเด็นต่างๆ เกียวกับ "The Future of Internet 2020" ซึ่งในที่นี้รวมถึงคำถามที่ว่า มนุษย์เรากำลังยึดติดกับเสิร์ชเอ็นจิ้นมากเกินไป หรือเปล่า? (ประมาณว่า หากวันใดวันหนึ่งขาดมันไปแล้วเราจะโง่ไหมเนี่ย?) ปรากฎว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นว่า กูเกิ้ลไม่ทำให้เราโง่อย่างแน่นอน ในทางตรงกันข้าม มันยังช่วยให้เราเป็นคนทีมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น รวมถึงช่วยสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ได้ลึกซึ้งกว่าเดิมอีกด้วย ไม่นับรวมทักษะของการสือสารที่เกิดจากการอ่านเขียนกันมากขึ้น

ทั้งนี้จากผลสำรวจ 76% กล่าวว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า ผู้คนทีใช้อินเทอร์เน็ตจะได้รับการพัฒนาความฉลาดให้กับตัวเอง เนื่องจากความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลที่มากกว่า ทำให้คนเราฉลาดขึ้น และได้เลือกตัดสินใจในสิ่งที่ดีกว่า กูเกิ้ลนอกจากจะไม่ได้ทำให้เราโง่เท่านั้น แต่คนที่ใช้อินเทอร์เน็ต (เป็น) จะได้โอกาสสะสมความรู้ และข้อมูลในการตัดสินใจที่ดีกว่าในอดีต หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มีความฉลาดขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม จากผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด ประมาณ 21% ไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่า ในอีก 10 ปีจากนี้ไป ผู้ที่ใช้อินเทอร์้เน็ตจะไม่ได้รับการพัฒนาสมองเท่าที่ควร อีกทั้งยังมีไอคิวต่ำลงอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ทีใช้อินเทอร์เน็ตมากเกินไปรับรองโง่แน่ แล้วคุณผู้อ่านล่ะครับ คิดว่า พวกเราจะโง่ลงไหม หากใช้กูเกิ้ล และพึ่งข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแทบตลอดเวลาอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ข้อมูลจาก: PCMAG,arip

ตู้หยอดเหรียญฯ "หุ่นยนต์จับลูกบอล"

สำหรับใครที่ชื่นชอบตู้จับตุ๊กตา (Doll Catcher) ทีผู้เล่นจะต้องหยอดเหรียญฯ เพื่อแลกกับการใช้จอยสติ๊กบังคับแขนกลเลือกจับตุ๊กตาที่ต้องการจากในตู้ แล้วหย่อนลงในช่องทางออก ล่าสุดตู้ดังกล่าวได้รับการพัฒนาให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก แทนที่จะเป็นการบังคับแขนกลก็เปลี่ยนเป็นบังคับหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์จิ๋วแทน...ว้าว!!!

ROBO CATCHER จากบริษัท Mechatrax เป็นตู้หยอดเหรียญฯทีอัพเกรดจากตู้จับตุ๊กตาแบบเดิมๆ ที่ใช้แขนกลไปสู่การใช้หุ่นยนต์ขนาดเล็กเดินด้วยสองเท้า และมีมือที่สามารถหยิบจับลูกบอลพลาสติกใสทีภายในมีรางวัลซ่อนอยู่ โดยผู้เล่นจะต้องใช้จอยสติ๊กบังคับให้หุ่นยนต์เดินไปหยุดอยู่หน้าบอลรางวัลที่ต้องการแล้วสั่งให้มันหยิบขึ้นมา เพื่อนำมันไปหย่อนลงในช่องเช่นเดียวกับตู้จับตุ๊กตา ฟังดูน่าสนุกดีนะครับ ลองดูตัวอย่างการเล่นจากคลิปวิดีโอข้างล่างนี้


อย่างไรก็ตาม ROBO CATCHER ตู้บังคับหุ่นยนต์จับรางวัลจะเปิดให้บริการในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ถ้าคุณผู้อ่านอยากมีไว้เล่นเองสักเครื่องก็สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงจากบริษัท สนนราคาตู้หนึ่งก็แค่ 990,000 เยน หรือประมาณ 360,000 บาทเท่านัน...อุ๊ปส์!!!


ข้อมูลจาก: gigazine,arip

เอชพีเปิดตัวกล้อง"วิดีโอพกพา"ราคาถูก

รายงานข่าวล่าสุด เอชพี (HP) ได้เปิดตัวกล้องวิดีโอพกพา (Pocket Camcorder) รุ่นใหม่ในงาน PMA 2010 งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับการถ่ายรูป และวิดีโอที่ได้จัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 ก.พ.ในสหรัฐฯ

HP V1020h กล้องวิดีโอแบบพกพากำลังได้รับความนิยมจากตลาด เนื่องด้วยขนาดที่พกพาสะดวกสามารถถ่ายวิดีโอไฮเดฟ ตลอดจนภาพนิ่งที่มีคุณภาพได้ (แพคเกจของกล้องจะคล้าย กับพ็อคเก็ตแคม Flip) โดยคุณสมบัติที่น่าสนใจของ HP V1020h กล้องถ่ายวิดีโอดีไซน์แคนดี้บาร์ (แบบมือถือ) นอกจากสเป็กที่สามารถถ่ายวิดีโอไฮเดฟ 720p แล้ว มันยังมาพร้อมกับเลนส์ซูม 2x คอนเน็คเตอร์เชื่อมต่อ USB ในตัว ถ่ายเสร็จก็ต่อเข้ากับพีซีเพื่ออัพโหลดคลิปได้เลย อีกทั้งยังมีพอร์ต HDMI เพื่อเล่นวิดีโอที่ถ่ายบนทีวีไฮเดฟฯได้อีกด้วย หน่วยความจำภายใน 128MB และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ SDHC ทั้งหมดนี้ราคาเพียง 109 เหรียญฯ หรือประมาณ 3,700 บาทเท่านั้น


ข้อมูลจาก: nexus404,arip

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

HP Slate ตัดราคาไอแพดพ่วง Win7+3G

ในขณะที่ไอแพด (iPad) ยังไม่วางตลาด เหล่าบรรดาผู้ผลิตพีซีที่มีแท็บเล็ต (tablet) เหมือนกันต่างก็ยังดูเชิงไปก่อน ล่าสุด HP Slate หนึ่งในคู่แข่งที่ได้รับแรงสนับสนุนจากไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ออกมาประกาศความเคลื่อนไหวอีกครั้ง เพื่อสร้างกระแสของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้เกิดความคึกคักในตลาดอีกครั้ง

สำหรับเป้าหมายของ HP Slate PC ก็คือ การช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดอันหอมหวลจากไอแพด และป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคปันใจไปสวามิภักดิ์แอปเปิ้ล (Apple) มากกว่านี้ โดยข่าวที่มีการเปิดเผยออกมาจากเว็บไซตื electronista ก็คือ ทางบริษัทมีแผนที่จะตัดราคาไอแพด พร้อมทั้งติดตั้ง Windows 7 เข้าไปเป็นระบบปฏิบัติการหลักของเครื่อง ตลอดจนสนับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย 3G

HP Slate PC จะม่ีราคาต่ำกว่า 629 เหรียญฯ หรือประมาณ 21,000 บาท (ราคา iPad เวอร์ชัน 3G ) ซึ่งข้อสรุปดังกล่าวเกิดจากการประชุมร่วมกันของผู้บริหารทั้งในสหรัฐฯ และไต้หวัน เพื่อล็อคราคาให้ได้ภายในอีกสองสามสัปดาห์ข้างหน้า ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ที่มีแพลมออกมาก็จะเป็นเรืองของระบบปฏิบัติการ และฮาร์ดแวร์บางอย่าง ซึ่งในกรณีที่ใช้ Windows 7 อุปกรณ์จะต้องมีพื้นที่ฮาร์ดดิสก์อย่างน้อย 16GB ดังนั้น มันเป็นไปได้ว่า HP Slate อาจจะใช้ฮาร์ดดิสก์ เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกกว่า แต่มันก็จะหนา และหนักกว่าไอแพดเล็กน้อย นอกจากนี้ในส่วนของโพรเซสเซอร์ ทางเลือกสำหรับการใช้ Intel Atom น่าจะเหมาะสุด เพราะจะทำให้ราคาของ HP Slate ถูกกว่าไอแพดอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งใกล้วันวางตลาดไอแพด สมรภูมิแท็บเล็ตพีซียิ่งดุเดือดร้อนแรงมากขึ้นเท่านั้น

ข้อมูลจาก: dvice,arip

Superfish ติดเสิร์ชด้วยภาพให้บราวเซอร์

Superfish พัฒนาอัลกอริธึมใหม่ (กลไกการทำงานของโปรแกรม) สำหรับการค้นหาด้วยภาพ (image search) โดยทำเป็นส่วนเสริมการทำงานของโปรแกรมบราวเซอร์อย่าง Internet Explorer และ Firefox ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ที่เป็นนักชอปสามารถค้นพบสินค้าที่ต้องการจากหน้าร้าน ตลอดจนเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อเลือกซื้อ หรือเลือกชมได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม อัลกอริธึมของ Superfish จะไม่เหมือนของ Amazon ที่ใช้กระบวนการสืบค้น โดยดูจากลักษณะความคล้ายคลึงของภาพ ซึ่งทางบริษัทได้โพสต์อธิบายอัลกอริธึมไว้ว่า "ส่วนใหญ่ Visual Search ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันจะเป็นการเปรียบเทียบจากภาพวัตถุแบนราบในสองมิติ (ดูความคล้ายคลึงจากเหลี่ยมมุม และสีสันของวัตถุในภาพ) ซึ่งก็สามารถให้ผลลัพธ์ได้ดีพอสมควร กลไกการทำงานลักษณะนี้จะคล้ายกับเทคโนโลยีรู้จำตัวอักษร (OCR: Optical Character Recognition) ที่พยายามวิเคราะห์ลายเส้นว่า มันดูคล้ายตัวอักษรอะไร?"

"แต่เราอยู่ในโลก 3 มิติ ซึ่งวัตถุต่างๆ จะถูกมองเห็นเป็นคนละเรื่องเลย เมื่อมันถูกมองจากมุมที่ต่างกัน แค่รองเท้าคุณยังสามารถมองเห็นไม่เหมื่อนกันไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านหลัง หรือด้านข้าง ดังนั้นการเสิร์ชภาพโดยอาศัยมุมมองเดียวในการค้นหา ย่อมทำให้พลาดข้อมูลอีกมากมาย Superfish ใช้อัลกอริธึมที่มีความซับซ้อนสำหรับการค้นหาด้วยภาพที่มาจากมุมมองสามมิติ เพื่อรู้จำวัตถุที่อยู่ในภาพได้แม่นยำยิ่งขึ้น" ในส่วนของโปรแกรมเสริมการทำงานที่ทำออกมาสามารถใช้ได้กับบราวเซอร์ Internet, Firefox บน Windows และ Mac แม้ยังเป็นเวอร์ชันทดสอบ แต่ก็สามารถทำงานได้ดีพอสมควรแล้ว คุณผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที http://www.superfish.com/

ข้อมูลจาก: Superfish,arip

แอมะซอนออก Kindle App สำหรับ BB

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา แอมะซอน (Amazon) ได้เปิดให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Kindle สำหรับใช้งานบนสมาร์ทโฟนที่กำลังมาแรงอย่าง BlackBerry แล้ว ซึ่งทำให้เจ้าของ BB สามารถอ่านอีบุ๊กที่ซื้อจากทางร้าน อีกทั้งยังสามารถซิงค์ที่คั่นหน้าหนังสือ (bookmarks) กับเครื่องอ่านอีบุ๊กอย่าง Kindle ได้อีกด้วย ทั้งนี้แอมะซอนยังอ้างอีกด้วยว่า ผู้ใช้ BB ต้องการให้ทางบริษัทพัฒนาแอพตัวนี้ขึ้นมา

ในที่สุด BlackBerry จาก RIM ก็กลายเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นถัดจาก iPhone (และ iPod Touch) ของ Apple ที่มี Kindle App ซึ่งแอพพลิเคชันคินเดิ้ลยังมีเวอร์ชันบนพีซีทีรันวินโดวส์อีกด้วย และสำหรับก้าวต่อไป แอมะซอนมีแผนที่จะออก Kindle App สำหรับ Mac และ Apple iPad ตลอดจนแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่จะออกมาในช่วงปลายเดือนมีนาคม ศกนี้

สำหรับอีบุ๊กที่ถูกซื้อจากแอมะซอน ไม่ว่าจะถูกดาวน์โหลดเข้าไปในอุปกรณ์ใดๆ ก็ตามจะสามารถเข้าถึงได้ทั้งหมด (Kindle, iPhone, iPod Touch, BlackBerry และ Windows PC) ซึ่งในกรณีของ Kindle App for BlackBerry ทางแอมะซอนอ้างว่า ที่เลือกพัฒนาบนแพลตฟอร์มนี้ด้วยก็เนื่องจากมีเสียงเรียกร้องจากเจ้าของ BB ไม่ใช่ว่า ทางบริษัทต้องการเพิ่มช่องทางจำหน่ายอีบุ๊กให้มากทีสุดเท่าที่เป็นไปได้ "เนื่องจากตั้งแต่เปิดตัวแอพพลิเคชันยอดฮิตอย่าง Kindle for iPhone เมื่อปีที่แล้ว ลูกค้าหลายรายก็เริ่มถามว่าจะมีโอกาสได้ใช้แอพดังกล่าวบน BlackBerry เมื่อไร และวันนี้สาวก BB ก็ได้รับโอกาสนั้นแล้ว" Ian Freed รองประธานที่ดูแลธุรกิจ Amazon Kindle กล่าว

Kindle App for BlackBerry จะเปิดโอกาสให้เจ้่าของ BB สามารถเข้าถึงอีบุ๊กได้มากกว่า 420,000 ไตเติล รวมถึง 102 ไตเติลขายดีของ Times อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแอมะซอนใช้เทคโนโลยีป้องกันลิขสิทธิ์อีบุ๊ก ทำให้มีอีบุ๊กน้อยกว่าคู่แข่งอย่าง โซนี่ และบาร์นแอนด์โนเบิลที่สนับสนุนมาตรฐาน Open e-Book ในเครื่องอ่าน Reader และ NBook ตามลำดับ มากกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว แต่ไมว่าอย่างไรก็ตาม คินเดิ้ลก็ยังเป็นผู้นำตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊ก ตามด้วยโซนี่เป็นอันดับสอง ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับผลการดำเนินกิจการในใตรมาสสุดท้ายของแอมะซอน เจฟ เบซอส ซีอีโอกล่าวว่า แอมะซอนสามารถขายอีบุ๊กได้ 6 เล่มทุกๆ 10 เล่มของหนังสือจริงที่เป็นไตเติลเดียวกัน


ข้อมูลจาก: tgdaily,arip

Sony Cyber-shot "บางสุด-กันน้ำ" ได้

รายงานข่าวล่าสุด โซนี่ (Sony) เตรียมวางตลาดกล้องดิจิตอล Cyber-shot รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงาน CES 2010 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยรุ่นแรกจะเป็น DSC-TX5 ซึ่งทางบริษัทอ้างว่า มันเป็นกล้องดิจิตอลที่บางที่สุดในโลก แถมยังเป็นกล้องที่เล็กที่สุดที่กันน้ำได้ ส่วนอีกรุ่นหนึ่งคือ DSC-H55 จะเป็นรุ่นที่มีความสามารถในการซูมภาพได้ถึง 10 เท่า

มาดูรายละเอียดของ Sony Cyber-shot DSC-TX5 กันดีกว่าครับ กล้องรุ่นนี้จะมีขนาดเล็กกะทัดรัด (3.75x 2.25x0.72 นิ้ว) และมีน้ำหนักเบา (128 กรัม) ซึ่งจะสังเกตได้ว่ามันมีความบางมากจริงๆ แค่ 1.83 ซม.เท่านั้น แถมยังอึดมากๆ สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 10 ฟุต (3 เมตร) และในที่อากาศเย็นจัดถึง -10 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังกันกระแทกจากการตกจากทีสูงถึง 5 ฟุต (1.5 เมตร) สำหรับความละเอียดของ DSC-TX5 จะอยู่ที่ 10.2 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 25 - 100 มม. ซูมออปติคัล 4x พร้อมหน้าจอระบบสัมผัส 3 นิ้ว นอกจากนี้ DSC-TX5 ยังสนับสนุนการบันทึกวิดีโอไฮเดฟ 720p และมีช่องต่อสัญญาณภายนอก HDMI ให้อีกด้วย โดยจะมีให้เลือก 5 สีด้วยกันคือ เงิน ดำ ชมพู เขียว และแดง วางตลาดเมษายน สนนราคา 350 เหรียญฯ (ประมาณ 12,000 บาท)

สำหรับกล้องดิจิตอลอีกรุ่นหนึ่งจะเป็น Sony Cyber-shpt DSC-H55 จะเป็นกล้องที่เน้นเรืองความสามารถในการซูมเป็นหลัก โดยรุ่นนี้จะมีความละเอียดของการถ่าย 14.1 ล้านพิกเซล และใช้เลนส์มุมกว้างเป็นพิศษ (25-250 มม.) ซูมออปติคัลได้ 10x (Super-Zoom) และหน้าจอ LCD 3 นิ้ว อัดแน่นอยู่ในตัวกล้องที่ค่อนข้างบางอีกเช่นกัน DSC-H55 จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว Optical SteadyShot ของโซนี่ แม้แต่ตอนที่ถ่ายภาพยนต์ไฮเดฟฯ 720p ซึ่ง H55 (และ TX5) จะรองรับฟอร์แมตของการ์ดหน่วยความจำทั้ง MemoryStick และ SD/SDHC โดย H55 จะมีให้เลือกเป็นเจ้าของได้ 2 สีด้วยกันคือ ดำ และเงิน สนนราคาอยู่ที่ 250 เหรียญฯ (ประมาณ 8,500 บาท) วางตลาดในเดือนเมษายนเช่นเดียวกัน

ข้อมูลจาก: pcmag,arip

ประลองสมองกับ BRAND'S Genius Exit

สำหรับคุณผู้อ่านที่ชื่นชอบเกมปริศนาท้าทายสมอง ต้องนี่เลยครับ BRAND'S Genius Exit ซึ่งไอเดียของเกมส์มาจากโฆษณาทางทีวี (TVC) ที่หนูดีต้องหาทางเข็นรถ เพื่อเปิดทางออกจากลานจอดให้ได้ โดยมีฉากประลองฝีมือมากถึง 200 ปริศนากันเลยทีเดียว

Brand's Genius Exit นอกจากจะมีแนวคิดที่พัฒนาต่อยอดมาจากโฆษณาทางทีวีแล้ว พื้นฐานของเกมปริศนาชุดนี้ยังคล้ายกับเกมคลาสสิกที่มีชื่อว่า Sokoban ที่ผู้เล่นจะต้องพยายามดันกล่องสินค้า (รถที่อยู่ในลานจอด) ที่ต้องการ ออกทางประตูโกดังให้ได้ ในขณะที่มีสินค้าขวางเส้นทางมากมาย ซึ่งผู้เล่นจะต้องวิเคราะห์เส้นทางการขยับรถ วางแผน ตลอดจนจดจำตำแหน่งของรถคันต่างๆ เพื่อหาทางถนำรถของเราออกจากลานจอดให้ได้ดังรูป เรียกได้ว่า เป็นเกมส์ที่ลับสมองประลองปัญญาของผู้่เล่นในทุกๆ ด้านเลยก็ว่าได้

งานนี้ Brand's ไม่ได้ทำเกมส์ดีๆ มาให้คุณแค่ได้ฝึกสมองเท่านั้น แต่ยังติดปลายนวมด้วยรางวัลสุดฮิปที่หลายคนต้องอยากได้อย่างแน่นอน นั่นก็คือ iPod Touch 8 GB และ Macbook Pro (13-inch: 2.53GHz ) โดยเริ่มตั้งแต่วันนที่ 15 ก.พ. – 28 มี.ค. 2553 สำหรับผู้สนใจเล่นคลิกเข้าไปเลยที่ Brand's Genius Exit

ข้อมูลจาก: BRAND's City,arip

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ฟรี!!! โปรแกรมเช็คลิงค์จากไซแมนเทค

รายงานข่าวล่าสุด ไซแมนเทค (Symantec) บริษัทผู้นำทางด้านซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต แจกฟรี!!! ซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ปลอดภัยจากลิงค์อันตรายในหน้าผลลัพธ์เสิร์ชเอ็นจิ้น ซึ่งเป็นการโต้ตอบของบริษัทหลังจากที่คู่แข่งหลายราย แม้กระทั่งไมโครซอฟท์ใช้การแจกฟรีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสกับผู้ใช้ทั่วโลก

Norton Safe Web Lite ซอฟต์แวร์ตรวจสอบลิงค์เวอร์ชันแจกฟรี (ปกติจะอยู่ในซอฟต์แวร์เวอร์ชันที่วางจำหน่าย) สามารถแจ้งเตือนด้วยภาพสัญลักษณ์ก่อนที่ผู้ใช้จะคลิกลิงค์ทีมีความเสี่ยงต่ออันตรายต่างๆ จากในเสร์ชเอ็นจิ้น โดยซอฟต์แวร์จะสามารถทำงานร่วมกับเสิร์ชยอดฮิตอย่าง Google, Yahoo และ Bing

ในขณะทีคู่แข่งอย่าง Microsoft Security Essentials และ AVG Anti-Virus Free 9 จะให้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสตัวสมบูรณ์ แต่สำหรับ Norton Safe Web Lite จะเป็นซอฟต์แวร์ช่วยเตือนเท่านั้น อย่างไรก็ดี ทางไซแมนเทคเปิดเผยว่า Web Safe Lite เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการแจกฟรีซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัย โดยขณะนี้ทางบริษัทกำลังพัฒนาซอฟต์แวร์ช่วยผู้ปกครองดูแลการใช้คอมพิวเตอร์ของเด็กๆ (Parental Control) เวอร์ชันที่ทำงานบนออนไลน์ด้วย

ไซแมนเทคปฏิเสธว่า การแจกฟรีซอฟต์แวร์ครั้งนี้ไม่ได้เป็นการโต้ตอบไมโครซอฟท์ "เราเชื่อว่า ซอฟต์แวร์ตัวนี้เป็นประโยชน์มหาศาลกับผู้ใช้จริงๆ" on Mallon ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของไซแมนเทค "นี่เป็นแค่ของให้ผู้ใช้ได้ลองสัมผัสประสิทธิภาพการทำงานของซอฟต์แวร์เราเท่านั้น ซึ่งหากติดใจก็จะสามารถนำผู้ใช้ไปสู่การสมัครเป็นสมาชิกบริการได้ในที่สุด" Norton Safe Web Lite เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีได้ที่ Norton Beta Center โดยผู้ใช้ไม่ต้องใส่ไลเซนส์คีย์ใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ไซแมนเทคเตือนว่า ซอฟต์แวร์ตัวนี้จะหมดอายุภายในสามถึงหกเดือน แต่มีแนวโน้มว่าจะยังคงให้ใช้ฟรีต่อไป ทั้งนี้คงต้องดูกระแสตอบรับจากผู้บริโภคเสียก่อน

ข้อมูลจาก: Norton Safe Web Lite,arip

MS เชื่อม Facebook กับ Outlook 2010

หลังจากกูเกิ้ล (Google) ประกาศเชื่อมต่อการทำงานระหว่างจีเมล์ (Gmail) กับโซเชียลเน็ตเวิร์กกิ้ง ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ (Microsft) ก็ประกาศเดินหน้าจับ Outlook อีเมล์ไคลเอ็นต์ที่แข็งแกร่งของทางบริษัทผูกปิ่นโตกับโซเชียลเน็ตเวิร์กด้วยเหมือนกัน

Outlook Social Connector (OSC) คุณสมบัติใหม่ใน Office 2010 จะสามารถดึงข้อมูลการอัพเดตต่างๆ จากโซเชียลเน็ตเวิร์กเข้าไปในซอฟต์แวร์ Outlook ได้ ซึ่งประโยชน์ทีได้รับก็คือ ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านข้อความในอีเมล์ พร้อมกับทำกิจกรรมต่างๆ บนโซเชียลเน็ตเวิร์กโดยใช้ผู้ส่ง (sender) คนเดียวกันจากในกรอบหน้าต่างของโปรแกรมได้ทันที อย่างไรก็ตาม ในเวอร์ชันทดสอบจะยังคงไม่อนุญาตให้โพสต์อัพเดตกลับเข้าไปในเว็บไซต์โซเชียลต่างๆ ได้จากใน Inbox

ไมโครซอฟท์ได้แนะนำ OSC เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พร้อมทั้งเปิดตัวส่วนเสริมการทำงานของโปรแกรมเอาท์ลุกเวอร์ชันทดสอบ ซึ่งก็คือ LinkedIn for Outlook ตลอดจนการประกาศความร่วมมือกับเว็บไซต์โซเชียลอย่าง Facebook และ MySpace ทางด้านนาย Dev Balasubramanian ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ MS Outlook อธิบายในวิดีโอว่า เป้าหมายของการเป็นพันธมิตรก็เพื่อนำโซเชียลเน็ตเวิร์กเข้าไปใส่ใน"กล่องจดหมายเข้า"ของผู้ใช้เอาท์ลุกนั่นเอง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กูเกิ้ลจับโซเชียลเน็ตเวิร์กใส่เข้าไปในอินบ๊อก แต่ก็ต้องถูกแรงต้านเนื่องจากบริการดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาความเป็นส่วนตัว เนื่องจากอีเมล์ใช้สำหรับการสื่อสารเรื่องส่วนตัวในขณะที่บริการโซเชียลส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเผยแพร์แชร์ข้อมูล ซึ่งดูจะขัดกันในแง่ของการใช้งานพอสมควร อย่างไรก็ดี Balasubramanian โพสต์ไว้ในบล็อกว่า OSC ได้รับการออกแบบให้ทำงานภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ตามที่ผู้ใช้กำหนด แทนทีจะสร้างขึ้นมาใหม่เหมือกับของกูเกิ้ล "เราคาดว่า ผู้ใช้จะประทับใจกับ OSC เนื่องจากมันไม่ได้นำโซเชียลเน็ตเวิร์กเข้าไปผสมปนกัน (ความเป็นส่วนตัวกับเรื่องสาธารณะ) ในขณะที่ OSC จะช่วยให้ผู้ใช้ที่ค่อนข้างมีงานยุ่ง แต่ก็อยู่ในโซเชียลเน็ตเวิร์กได้รับความสะดวก และไม่สับสน" สำหรับซอฟต์แวร์เชื่อมโยงการทำงานร่วมกับ Facebook และ MySpace ใน Outlook 2010 คาดว่าจะสามารถเปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้ได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยผู้ใช้สามารถติดตามอัพเดตเว็บไซต์โซเชียลทั้งสองได้จากในรายชื่อผู้ติดต่อของเอาท์ลุก

ข้อมูลจาก: crn,arip

เต้าเสียบปลั๊กไฟ"ปลดสาย"เมื่อแบตฯเต็ม

ทราบไหมครับว่า อะแดปเตอร์ A/C ของอุปกรณ์แก็ดเจ็ต (Gadget) ต่างๆ จะยังคงมีการใช้พลังงานไฟฟ้า แม้แบตเตอรี่ในอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงอยู่จะได้รับการชาร์จจนเต็มแล้ว แต่ใครจะไปคอยเฝ้าดูตลอดเวลาว่า แบตฯที่ชาร์จเต็มแล้ว หรือยัง? ส่วนใหญ่หลายคนเลือกที่จะชาร์จอุปกรณ์ก่อนเข้านอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่สำหรับเต้าเสียบปลั๊กไฟอัจฉริยะ มันจะดูแลเรื่องนี่แทนคุณได้ครับ

Leech Plug หรือ Outlet Regulator เต้าเสียบปลั๊กไฟอัจฉริยะ ผลงานการออกแบบของ Conor Kleinนักเรียนจาก RISD โดยการทำงานอันแสนเรียบง่ายของมันก็คือ หลังจากที่ชาร์จแบตฯเต็มแล้ว Leech Plug จะปลดปลั๊กไฟของอุปกรณ์ออกไปให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ไฟฟ้าไม่ถูกใช้ไปโดยสูญเปล่า ไอเดียน่าสนใจมากทีเดียว

ส่วนเหตุผลที่ไอเดียของสิ่งประดิษฐ์นี้ถูกเรียกว่า Leech Plug ก็เนื่องจากว่า การทำงานของมันคล้าย"ปลิงดูดเลือด" เพราะหลังจากที่อุปกรณ์ชาร์จแบตจนเต็ม (คล้ายกับปลิงที่ดูดเลือดจนอิ่ม) มันก็จะปลดตัวเองหลุดออกมานั่นเอง สำหรับข้างล่างนี้เป็นคลิปสาธิตการทำงานของ Leech Plug


ข้อมูลจาก: CrunchGear,arip

สมาร์ทโฟน"แอนดรอยด์"กำลังมาแรง!!!

ข้อมูลจาก ComScore ระบุว่า สมาร์ทโฟนที่ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ (android) ของกูเกิ้ล (Google) มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 5% ซึ่งหากสิ่งที่ Eric Schmidt คาดการณ์ไว้เป็นจริง แอนดรอยด์จะมีการเติบโตของส่วนแบ่งตลาดที่เร็วมากๆ

Schmidt กล่าวในงาน Mobile World Congress 2010 ว่า กูเกิ้ล และบริษัทที่เป็นพันธมิตรกำลังส่งมอบแอนดรอยด์โฟนไปยังร้านค้าวันละ 60,000 เครื่อง เว็บไซต์ MobileCrunch อ้างว่า ยอดจำหน่ายมือถือ 5.4 ล้านเครื่องต่อไตรมาส หรือคิดเป็น 21.9 ล้านเครื่องต่อปี ส่วนทางด้าน Apple เพิ่งจำหน่ายมือถือไปด้วยจำนวน 8.7 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

Schmidt ยังกล่าวอีกด้วยว่า ด้วยการอัตราการส่งมอบเครื่องที่เติบโตเป็นเกือบสองเท่าของไตรมาสล่าสุด ทำให้เขามั่นใจว่า แพลตฟอร์มแอนดรอยด์จะกลายเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับมือถือภายในปี 2012อย่างแน่นอน นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนที่เป็นพระเอกในงาน MWC 2010 ยังเป็นแอนดรอยด์โฟนจากบรรดาบริษัทผู้ผลิตหลายๆ รายอีกด้วย

ข้อมูลจาก: smh,arip

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

RIM ยกเครื่อง"บราวเซอร์"สำหรับ BB

รายงานข่าวล่าสุดในงาน WMC 2010 RIM (Researh In Motion) แนะนำบราวเซอร์รุ่นใหม่ (ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการพัฒนา) สำหรับ BlackBerry ซึ่งเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ก็ว่าได้ เนื่องจากทางบริษัทเลือกใช้ WebKit กลไกการทำงานในบราวเซอร์ของไอโฟน (iPhone) และแอนดรอยด์ (Android) เป็นแกนการทำงานหลัก ซึ่งผลทำให้บราวเซอร์เวอร์ชันใหม่สามารถเรนเดอร์เว็บเพจได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล รวมถึงการดาวน์โหลดไฟล์ทีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย

ผู้ใช้สมาร์ทโฟนต่างทราบดีกว่า บราวเซอร์บน BlackBerry ถือได้ว่าเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ ซึ่งสมควรที่จะได้รับการพัฒนาให้ดีกว่านี้ แม้มันจะรองรับ HTML ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ แต่จะตกเป็นรองบราวเซอร์บนสมาร์ทโฟนเจ้าอื่นๆ ทันทีเมื่อเจอกับเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยมัลติมีเดีย ดังนั้น การที่ RIM ตัดสินใจยกเครื่องบราวเซอร์บน BB ด้วยการใช้กลไก WebKit ที่เหล่าบรรดาคู่แข่งเล่ือกใช้ไปก่อนหน้านี้ จึงถือเป็นคำตอบที่น่าจะถูกใจสาวก BB กันอย่างแน่นอน


Mike Lazarids ซีอีโอที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง RIM กล่าวในงาน WMC 2010 ว่า คุณสมบติการทำงานของบราวเซอร์เวอร์ชันใหม่ทียัดใส้ WebKit ก็คือ "ความเร็ว" โดยย้ำว่า "คุณจะสัมผัสได้ถึงความเร็วของการดาวน์โหลด และเรนเดอร์หน้าเว็บ ตลอดจนความลื่นไหลของการเลื่อนหน้าจอ รวมถึงการซูมหน้าเว็บ" บราวเซอร์บน BB จะมีการใช้ทรัพยากรเน็ตเวิร์กได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าบราวเซอร์บนมือถือรุ่นอื่นๆ (iPhone, Android) ถึง 3 เท่า ซึ่งมันเป็นการดีสำหรับโอเปอเรเตอร์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม บราวเซอร์รุ่นใหม่จะยังไม่ออกจนกว่าจะถึงช่วงปลายปีนี้ ส่วนมันจะเร็วแค่ไหน? ลองชมคลิปสาธิตการใช้งานได้เลยครับ


ข้อมูลจาก: mobilbeat,arip

เอชพีเผยโฉม"สมาร์ทบุ๊ก"เครื่องแรก

เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีการเปิดเผยเซกเมนต์ใหม่ของตลาดคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า "สมาร์ทบุ๊ก" (smartbook) ซึ่งคำอธิบายที่ง่ายทีสุดก็คือ เน็ตบุ๊กทีใช้ซีพียูสมาร์ทโฟน ล่าสุดในงาน WMC 2010 ทางบริษัทเอชพีได้นำสมาร์ทบุ๊กเครื่องแรกของทางบริษัทออกมาโชว์ พร้อมทั้งสาธิตการใช้งานให้เห็นกันจะแจ้งสายตากันไปเลย

HP Compaq Airlife 100 "สมาร์ทบุ๊ก" ที่ดูเผินๆ มันก็คือเน็ตบุ๊กทีมีหน้าจอ LED ขนาด 10.1 นิ้วดีๆ นี่เอง อย่างไรก็ตาม ภายในเครื่องจะทำงานด้วยโพรเซสเซอร์ Snapdragon 1GHz ของ Qualcomm (ใช้ในสมาร์ทโฟน Google Nexus One และ HTC Desire) ส่วนระบบปฏิบัติการที่ใช้ก็จะเป็น Android 1.6 (Cupcake) SSD 16GB พร้อมช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ SD เชื่อมต่อ Wi-Fi และ 3G ฟังดูเหมือนกับจับสมาร์ทโฟนมาใส่ในตัวถังเน็ตบุ๊กยังไงยังงั้น

แต่ยังไม่หมดเท่านี้นะครับ หน้าจอของ HP Compaq Airlife 100 ยังทำงานด้วยระบบสัมผัส (resistive touchscreen) อีกทั้งในส่วนของคีย์บอร์ดยังได้รับการออกแบบให้รองรับการใช้งาน Google App ได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย สำหรับความรู้สึกในการใช้งาน HP Compaq Airlife 100 จะทำให้ผู้ที่รู้สึกอึดอัดกับสมาร์ทโฟนที่น่าจอเล็กๆ ไอคอนจิ๋วๆ หมดไป และคุ้นเคยกับสมาร์ทบุ๊กได้อย่างรวดเร็ว (ก็มันแทบไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนนี่นา) โดยคุณสามารถท่องเน็ตไร้สายได้ต่อเนื่องนานถึง 12 ชั่วโมง (สแตนด์บายได้ 10 วัน) แถมยังสามารถเปิดเครื่องให้พร้อมใช้งานได้ทันทีแบบมือถือ ส่วนแอพลิเคชันต่างๆ ก็สามารถหาเพิ่มเติม และดาวน์โหลดจากแอพสโตร์ ในส่วนของดีไซน์ที่บางเบาทำให้คุณสามารถนำเจ้า HP Compaq Airlife 100 ติดตัวไปไหนต่อไหนได้อย่างสะดวกโยธิน แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องราคา แต่คาดว่าน่าจะไม่ถึง 250 เหรียญฯ (ประมาณ 8,500 บาท)


ข้อมูลจาก: gaj-it,arip

HTC Desire คู่เหมือน Nexus One

สำหรับใครที่อยากได้ Nexus One ของกูเกิ้ล (Google) คุณจะต้องชอบ HTC Desire (เดิมชื่อ Bravo) แม้มันจะไม่มีฟังก์ชันค้นหาด้วยเสียง (voice search) หรือระบบตัดเสียงระบบกวน (active noise cancellation) แต่มันมีขนาดของหน้าจอสัมผัส 3.7 นิ้ว และโพรเซสเซอร์ 1GHz (Snapdragon) ตลอดจนดีไซน์ของตัวเครื่องที่ละม้ายคล้ายคลึง Nexus One เป็นทีสุด

นอกจากเหตุผลข้างต้นที่ทำให้คุณผู้อ่านรู้สึกตัดสินใจลำบากระหว่างที่ว่าจะเลือก Desire หรือ Nexus One ดี ลองมาดูข้อแตกต่างกันบ้าง Desire จะใช้จอยสติ๊กแสง (optical joystick) แทน แทรคบอล (trackball) สำหรับควบคุมการใช้งาน ซึ่งผลลัพธ์ทำให้การเข้าถึงเมนู ไอคอน ตลอดจนรายการต่างๆ บนหน้าจอทำได้อย่างง่ายดาย แม่นยำ และรวดเร็ว

ไม่เพียงแต่การเลือกใช้จอยสติ๊กแสงในการควบคุมการใช้งานเท่านั้น แต่ HTC Desire ยังมาพร้อมกับอินเตอร์เฟซ Sense เวอร์ชันอัพเดตอีกด้วย โดยจุดเด่นที่น่าจะถูกใจผู้ใช้สมาร์ทโฟนก็น่าจะเป็นฟังก์ชัน "Leap" ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ pinch in (ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้สัมผัสแล้วจีบเข้าหากัน) เพื่อดูข้อมูลทั้งบนหน้าจอโฮมได้ทันที HTC Desire เลือกใช้หน้าจอเป็น AMOLED 3.7 นิ้ว (480 x 800) ซีพียู Snapdragon 1GHz หน่วยความจำ ROM 512MB และ RAM 576MB เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi, Bluetooth และสนับสนุนการใช้ GPS กล้องดิจิตอล (ออโต้โฟกัส+แฟลช) 5 ล้านพิกเซล ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 2.1 กำหนดการวางตลาดจะเป็น่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

ข้อมูลจาก: gizmodo,arip

เผยกลไกการทำงานของ"ภาพ 3 มิติ"

เทคโนโลยี "ภาพ 3 มิติ" ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมานานแล้ว ในขณะเดียวกันมันก็มีเทคนิคที่ใช้หลอกสายตาให้เห็นภาพที่ฉายอยู่นั้นเกิดมีติตื้นลึกชัดเบลอขึ้นมามากมายจนน่าปวดหัว โดยแต่ละเทคนิคก็ยังจะใช้แว่นที่ไม่เหมือนกันอีกต่างหาก ลองดูคำอธิบายพร้อมภาพประกอบง่ายๆ ต่อไปนี้ คาดว่าน่าจะช่วยให้คุณเข้าไปใจการทำงานของพวกมันได้ง่ายขึ้นครับ

Anaglyph (แว่นตาน้ำเงิน/แดง) เทคนิคแรกนี้จะพบเห็นกันมาก และทีเป็นที่คุ้นเคยมากที่สุด ซึ่งหากจะอธิบายหลักการจากภาพที่เห็นข้างล่างนี้ก็คือ Anaglyph จะใช้กล้องฉายภาพ 2 ตัว ฉายภาพที่มีสีสัน (น้ำเงินกับแดง) และมุมมองที่แตกต่างกัน (เหมือนกับเวลาเราปิดตาแล้วมองทีละข้าง ภาพที่เห็นจะมีมุมทีแตกต่างกันเล็กน้อย) ส่วนแว่นตาทำหน้าทีกรองภาพแต่ละสีออกไป เช่น แว่นตาสีแดงจะกรองภาพสีแดงออกไปให้เห็นแต่ภาพสีน้ำเงิน ส่วนแว่นตาสีน้ำเงินก็จะกรองภาพส่วนที่เป็นสีแดงออกไป ทำให้ตาทั้งสองเห็นภาพที่แตกต่างกัน สมองจะตีความด้วยการรวมภาพที่มองเห็นแตกต่างกันสองภาพ อีกทั้งมีมุมแตกต่างกันกลายเป็นภาพทีมิติขึ้นมา (อีกคำอธิบายหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ภาพสีแดงจะตกหลังจอตา ส่วนภาพสีน้ำเงินจะตกกระทบก่อนถึงจอตา ความแตกต่างกันของการตกกระทบภาพทั้งสองภาพบนจอตา เมื่อมองเห็นพร้อมกันทำให้เกิดมีติดลึกตื้นที่ไม่เท่ากัน เลยเห็นเป็นภาพลอยออกมาได้นั่นเอง)

Polarized 3-D Glasses หลักการจะคล้ายกับ Anaglyph โดยเฉพาะการฉายภาพจากล้องสองตัวด้วยภาพที่แตกต่างกัน แต่เทคนิคนี้ไม่ได้ใช้สีเป็นตัวแบ่งภาพที่ต่างกัน แต่จะใช้แนวการวางตัวของช่องการมองเห็นแต่ละภาพที่ฉายซ้อนกันอยู่ เช่น จากในภาพแว่นตาข้างซ้ายจะเห็นมองเป็นภาพที่ผ่านช่องในแนวตั้ง ส่วนตาขวาจะมองเห็นภาพที่ช่องในแนวนอน ซึ่งทั้งสองภาพมีมุมมองที่แตกต่างกัน ดังนั้นมันก็จะเข้าหลักการเดิม นั่นก็คือ การทำให้ตาแต่ละข้างของเรามองเห็นภาพที่ไม่เหมือนกัน เมื่อสมองพยายามรวมภาพทั้งสองที่มีความแตกต่างของมุมมอง ภาพที่เห็นจึงเกิดเป็น 3 มิติขึ้นมา

Parallax Barrier สำหรับเทคนิคสุดท้ายที่นำมาฝาก ผู้ชมไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตา ซึ่งหากจำกันได้ ในงาน commart เมื่อปลายปี ได้มีการนำกล้อง Fujifilm ที่สามารถมองเห็นภาพถ่ายบน LCD ด้านหลังกล้องเป็น 3D ได้ โดยไม่ต้องใส่แว่นตา นี่ล่ะครับตัวอย่างของเทคนิค Palarax ซึ่งหากจะอธิบายจากภาพที่เห็นก็คือ มันจะใช้วิธีแบ่งภาพที่มีมุมองต่างกันเป็นแท่งๆ วางตัวสลับกัน (เหมือนเส้นสแกนในทีวี แต่ทีวีจะใช้ภาพมุมมองเดียวกัน) โดยมี Parallax Barrier ที่เป็นชั้นกรองพิเศษสามารถแบ่งแต่ละส่วนของภาพให้ตาแต่ละข้างที่มองผ่านชั้นนี้มองเห็นภาพที่ไม่เหมือนกันได้พร้อมกัน เมื่อสมองพยายามรวมภาพที่มีมุมมองต่างกันให้เป็นภาพเดียว เราก็จะมองเห็นเป็นภาพสามมิตินั่นเอง (พูดง่ายๆ ก็คือ parallax Barrier ทำหน้าที่แทนแว่นตาที่กรองภาพทั้งสองให้ตาแต่ละข้างได้มองเห็นคนละภาพกันนั่นเอง เจ๋งจริงๆ เลยนะครับ)

ข้อมูลจาก: onlineschools,arip

Notion Ink แท็บเล็ต"เพชรฆาตไอแพด"

Notion Ink Adam แท็บเล็ตที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนเป็นแค่ข่าวลือ แต่ล่าสุดมันได้เผยต้นแบบออกมาแล้ว พร้อมด้วยสเป็กที่น่าประทับใจในงาน Mobile World Congress 2010 ตามรายงานข่าวอ้างว่า มันเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับไอแพด (iPad) ของแอปเปิล (Apple) เลยก็ว่าได้

ผู้เชี่ยวชาญจาก Notion Ink กล่าวว่า จากคอนเซปต์ที่ได้มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ ทางบริษัทพร้อมแล้วที่จะนำเสนอเครื่องต้นแบบที่มีฟังก์ชันการทำงานค่อนข้างสมบูรณ์แบบ และเชื่อว่า มันจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไอแพด โดยสเป็กที่มีการเปิดเผยออกมาแล้วก็คือ ภายในใช้โพรเซสเซอร์ Arm Cortex A9 Dual Core CPU ส่วนกราฟิกจะเป็น nVidia Tegra 2 และจุดเด่นที่แตกต่างจากทั่วไปก็คือ การเลือกใช้หน้าจอแอลซีดีระบบมัลติทัช PixelQi Transflective ความละเอียดของการแสดงผล 1024 x 600 ซึ่งสามารถแสดงผลให้เห็นได้ทั้งในห้องมึด หรือทีมีแสงสว่างจากธรรมชาติ (แม้แต่ภายใต้แสงแดด) ซึ่งนั่นหมายความว่า จอของมันสามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับเทคโนโลยีอีอีิงค์

ในส่วนของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ หากใช้ในที่มึด (ต้องการแสงสว่างจากด้านหลังจอ หรือ backlight) จะสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง แต่ถ้าปิด backlight เวลาในการใช้งานจะนานได้ถึง 160 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งทำให้มันสามารถสู้รบปรบมือกับเครื่องอ่านอีบุ๊กที่เป็นผู้นำในตลาดอย่าง Kindle และ Nook ได้อีกด้วย Notion Ink Adam จึงเป็นแท็บเล็ตที่ไฮบริดฟังก์ชันระหว่าง iPad กับ e-Reader นั่นเอง ข้างล่างนี้เป็นสเป็กเปรียบเทียบระหว่าง Apple iPad กับ Notion Ink Adam

แม้ว่าเครื่องต้นแบบจะไม่บางเท่าไอแพด แต่ทาง Notion Ink อ้างว่า เวอร์ชันสมบูรณ์จะสามารถทำให้มีน้ำหนักแค่เพียง 1.7 ปอนด์ และหนาแค่ 14mm เท่านั้น ในขณะที่หน้าจอจะใหญ่กว่า iPad เล็กน้อย แต่ประเด็นคือ พลังประมวลผลที่อยู่ใน Adam จะเหนือกว่า iPad ค่อนข้างมาก นอกจากนี้มันยังสามารถใช้เล่นวิดีโอฟูลไฮเดฟฯ 1080p และแฟลช (Flash) ได้อีกด้วย ส่วนความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สายจะสนับสนุน 3G บลูทูธ และ Wi-Fi (802.11b/g) พร้อมรองรับการใช้ระบบ A-GPS สำหรับโอเอสทีทำงานบนแท็บเล็ตจะมีให้เลือก 3 แพลตฟอร์มด้วยกันคือ Android, Unbuntu และ Chromium สนนราคาคาดว่าจะอยู่ที่ 327 เหรียญฯ หรือประมาณ 11,000 บาท


ข้อมูลจาก: gizmodo,arip

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Symbian อัพเกรดความสามารถในการเชื่อมต่อ HDTV ใน OS เวอร์ชั่นล่าสุด

Symbian Foundation ได้ทำการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ open-source สำหรับโทรศัพท์มือถือเวอร์ชั่นล่าสุด หรือ S^3 ภายในงานการประชุม Mobile World Congress เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

โดยเวอร์ชั่นอัพเกรดล่าสุดของระบบปฏิบัติการแบบ open-source สำหรับโทรศัพท์มือถือหนึ่งในตระกูล Symbian นี้ จะมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า S^3 ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มแรกในรูปแบบ open-source ที่พัฒนาขึ้นแบบเต็มตัว โดยจะมีการรองรับการสนับสนุน HDMI, เทคโนโลยีการจัดการเมมโมรี่ใหม่, โครงสร้างสถาปัตยกรรมกราฟฟิกใหม่ และมีการเตรียมความพร้อมในการรองรับเทคโนโลยี 4G อีกด้วย นอกจากนี้ ยังจะสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ TV set เพื่อรับชมภาพยนตร์ในรูปแบบของความละเอียดสูง หรือ 1080p อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการสั่งซื้อเพลงที่พวกเขาได้ยินจากการรับฟังทางวิทยุผ่านทางร้านจำหน่ายเพลงออนไลน์ที่รวมอยู่ในวิทยุได้อีกด้วย ซึ่งทางต้นสังกัดคาดว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในประมาณปลายเดือนมีนาคมนี้

Source :CNET

ข้อมูลจาก : Pantip.com : Tech Exchange - IT NEWS

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows Phone 7

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางผู้บริหารของไมโครซอฟท์ได้ออกมาทำการเปิดตัวระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือเวอร์ชั่นล่าสุด Windows Phone 7 ซึ่งได้มีการเพิ่มความสามารถในการรองรับการทำงานแบบมัลติทัช โดยหวังมาตีตลาดคู่แข่งอย่าง iPhone จาก Apple

โดย Steve Ballmer ผู้บริหารของไมโครซอฟท์และทีมงานของเขา ได้ออกมาทำการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows Mobile เวอร์ชั่นล่าสุดภายในงานการประชุม Mobile World Congress เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบบปฏิบัติการใหม่นี้ จะใช้ชื่อเรียกว่า Windows Phone 7 ซึ่งเลข 7 นี้ ทางต้นสังกัดหวังว่าจะเป็นเลขแห่งความโชคดี โดยจะเป็นจุดเริ่มต้นในการก้าวกลับเข้ามาทวงบัลลังค์ความเป็นผู้นำในธุรกิจโทรศัพท์มือถือคืน ซึ่ง Windows Phone 7 นี้ ถือเป็นระบบปฏิบัติการแรกที่ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานแบบมัลติทัชสำหรับโทรศัพท์มือถือแบบทัชสกรีน โดยจะมีการนำเสนอกราฟฟิกในรูปแบบ tiles หรือการแสดงผลในรูปแบบของกราฟฟิกหลายๆอันภายในหน้าเดียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับซอฟท์แวร์หรือยูสเซอร์อินเตอร์เฟสที่มีการออกแบบมาในรูปแบบนี้ ซึ่งจะช่วยให้มีการใช้งานที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ซอฟท์แวร์ใหม่ที่มีการรวมข้อมูลทั้งรูปภาพ, อีเมล, เพลง, วีดีโอ, เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลอื่นๆ อาทิ เวบ social-network หรือ บริการเพลงหรืออีเมล เป็นต้น โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบ tiles ที่จะง่ายต่อการเข้าถึง โดยทางต้นสังกัดคาดว่า ระบบปฏิบัติการล่าสุดนี้น่าจะตีตลาดได้ราวช่วงเทศกาลช้อปปิ้งภายในปี 2010 นี้ ซึ่งทางทีมงานได้มีการแพลนกันไว้ว่า จะมีการนำเสนอผ่านทางตัวแทนผู้ให้บริการเครือข่ายชื่อดังหลักๆทั้งสี่ของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง AT&T และ Orange ด้วย

Source :CNET

ข้อมูลจาก : Pantip.com : Tech Exchange - IT NEWS

Adobe เตรียมจับ AIR ลงสมาร์ทโฟนโดยเริ่มที่ Android ก่อน

ต้นสังกัด Adobe Systems ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ทางทีมงานได้มีการทำงานกันอย่างหนักเพื่อนำเอาเทคโนโลยี Flash เข้ามาปรับปรุงใช้ในโทรศัพท์มือถือ โดยจะมีการริเริ่มในโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบปฏิบัติการ Android จาก Google ก่อนเป็นเจ้าแรก ซึ่งน่าจะเปิดตัวได้ราวภายในปีนี้

โดยเทคโนโลยีที่ว่านี้มีชื่อว่า Adobe Integrated Runtime หรือ AIR ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำหรับแอปพลิเคชั่นในการใช้งาน Flash หรือเทคโนโลยี Web ซึ่งในเบื้องต้นนี้ ทางต้นสังกัดได้วางแผนไว้ว่า จะทำการเปิดตัวเทคโนโลยีนี้บนระบบปฏิบัติการ Android ก่อน โดยตั้งเป้าไว้ภายในปี 2010 นี้ นอกจากนี้ Adobe ยังได้ประกาศร่วมงานกับทาง LiMo Foundation ได้การนำเอา Flash ไปใช้งานบนโทรศัพท์มือถือที่รองรับการใช้งาน Linux อีกด้วย โดย AIR สำหรับโทรศัพท์มือถือนี้ จะใช้โปรแกรม Flash Player 10.1 เวอร์ชั่นเบต้าที่เพิ่งเปิดให้เหล่าบรรดานักพัฒนาและโปรแกรมเมอร์ร่วมทดสอบประสิทธิภาพอยู่ โดยตัวแทนจาก Adobe กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยี AIR นี้ จะช่วยให้มีการแสดงผลภาพแบบความละเอียดสูง โดยจะรองรับการใช้งานอินเตอร์เฟสแบบ Multi-Touch Gesture Input ทำให้สั่งงานได้ง่ายผ่านปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้ ยังมีตัวจับตำแหน่งไว้สำหรับคอยค้นหาตำแหน่งที่อยู่ได้อีกด้วย

Source :CNET

ข้อมูลจาก : Pantip.com : Tech Exchange - IT NEWS

Nokia จับมือ Intel ร่วมเป็นพันธมิตรในสงครามสมาร์ทโฟน

2 ยักษ์ใหญ่แห่ง 2 วงการจับมือเตรียมพร้อมสู้ศึกสมาร์ทโฟนด้วยเเพลตฟอร์ม Linux บนโทรศัพท์มือถือ

หลังจากที่บรรดาคู่แข่งทั้งทางตรงและทางอ้อมต่างพากันทยอยเปิดตัวสมาร์ทโฟนในแพลตฟรอ์มของตนกันอย่างเอิกเกริกนำโดย Windows Phone 7 จาก MIcrosoft และเเพลตฟอร์ม Bada ของรองอันดับหนึ่งตลาดมือถืออย่าง Sumsung และในวันนี้ยักษ์ใหญ่จากทั้งสองวงการอย่าง Nokia และ Intel ได้ประกาศกรร่วมมืออย่างเป็นทางการในการร่วมพัฒนาโทรศัพท์สมาร์ทโฟนบนเเพลตฟอร์ม Linux ร่วมกันใช้ชื่อว่าเเพลตฟอร์ม MeeGo ซึ่งในการร่วมมือครั้งนี้ทาง Intel ได้มุ่งไปที่ยอดการผลิตและจำหน่ายชิปเซตที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้น ส่วนทาง Nokia ก็มีเป้าหมายหลักอยู่ที่การผลักดันยอดขายเครื่องและขยายตลาดเเพลตฟอร์ม แทนที่เเพลตฟอร์ม Symbian ขอตอนที่มีการถดถอยของผู้ใช้ให้กับคู่แข่งอย่าง BlackBerry และ iPhone อย่างต่อเนื่อง

Source :reuters.com

ข้อมูลจาก : Pantip.com : Tech Exchange - IT NEWS

EA ปลดเกม Command & Conquer: Tiberian Sun แจกเป็นฟรีแวร์

เกมวางแผนในซีรีย์ Command & Conquer ปลดเป็นฟรีแวร์แจกต้อนรับการมาเยือนของภาคล่าสุดแล้ว

EA ผู้จัดจำหน่ายและพัฒนาเกมรายใหญ่ประกาศปลดหนึ่งในซีรีย์เกมวางแผนการรบชื่อดัง Command & Conquer: Tiberian Sun แจกฟรีเป็นฟรีแวร์เพื่อต้อนรับการวางจำหน่ายของภาคล่าสุดในซีรีย์แล้ว Command & Conquer: Tiberian Sun เป็นภาคที่ 3 ของซีรีย์ Command & Conquer ภาคหลักที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 1999 หรือกว่า 10 ปีที่แล้วโดยการปลดเพื่อเป็นฟรีแวร์ในครั้งนี้นั้นส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการสร้างกระแสและปรับความเข้าใจในเนื้อเรื่องให้กับเกมในซีรีย์ Command & Conquer ภาคต่อล่าสุด Command & Conquer 4: Tiberian Twilight ที่มีกำหนดวางจำหน่ายภายในกลางปีนี้ โดยภาคล่าสุดที่ว่าจะเป็นการปิดตำนานเนื้อเรื่องการสู้รบระหว่างฝ่าย GDI และ NOD ที่ยืดยาวมาตั้งแต่การเปิดตัวเกม Command & Conquer ภาคแรกในปี 1994 โดยก่อนหน้านี้ทาง EA ก็ได้ปลดเกม th Command & Conquer: Tiberian Dawn และ Command & Conquer: Red Alert เป็นฟรีแวร์ในช่วงการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีซีรีย์เมื่อปีที่ผ่านมา

Source :techspot.com

ข้อมูลจาก : Pantip.com : Tech Exchange - IT NEWS

Windows Phone 7 เปิดตัวแล้ว!!!

รายงานพิเศษเกาะติดงาน Mobile World Congress 2010 ที่จัดขึ้นในกรุงบาเซโลน่า ประเทศสเปน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7 สำหรับสมาร์ทโฟนแล้ว โดยจะวางตลาดอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ โอเอสใหม่จะมาพร้อมกับความสามารถของโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพลง วิดีโอ ภาพถ่าย และเกมส์ภายใต้อินเตอร์เฟซที่่ปรับแต่งการใช้งานได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ

สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอไมโครซอฟท์ได้แนะนำคุณสมบัติการทำงานต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7 ซึ่งก็เป็นไปตามคาด อินเตอร์เฟซของมันจะคล้่ายกับที่เห็นในเครื่องเล่นมีเดีย Zune ของทางบริษัท โดยคอนเซปต์ของอินเตอร์เฟซทีเป็นจุดศูนย์กลางของการใช้งานจะประกอบด้วยส่วนที่เกี่ยวกับผู้ใช้และผู้คนที่ติดต่อ ภาพดิจิตอล แอพพลิเคชันออฟฟิศและเมล์ เพลง และวิดีโอ ทั้งนี้ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ใหม่สำหรับอินเตอร์เฟซที่ไม่เหมือนกับพีซี และสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ

ผู้ใช้ Windows Phone 7 จะสามารถเห็นคุณสมบัติการทำงานที่เกี่ยวข้องกับตัวเองทั้งหมดขึ้นมาเต็มหน้าจอ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมการเชื่อมต่อกับโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง Facebook, Windows Live และอื่นๆ โดยคุณสมบัติการทำงานทั้งหมดจะสามารถซิงค์ หรือทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของไมโครซอฟท์ได้อย่างเช่น Office, Outlook ตลอดจนเครื่องเล่นมีเดีย Zune และเกมส์แพลตฟอร์ม X-Box Live นอกจากนี้มันยังผูกการทำงานกับเสิร์ช Bing เพื่อใช้บริการค้นหา และแผนที่อีกด้วย ส่วนบราวเซอร์บนมือถือยังคงใช้โค้ดการทำงานของ IE

สำหรับนักพัฒนาแอพฯ ทางไมโครซอฟท์ได้เตรียมชุดคิทมากมายไม่แพ้ซอฟต์แวร์คิทสำหรับพัฒนาแอพฯ บนพีซีเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี ไมโครซอฟท์กล่าวว่า สมาร์ทโฟนไม่ใช่พีซี หน้าที่ของมันคือ ตอบโจทย์การใช้งานตามความต้องการส่วนบุคคล และไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ซึ่งโอเอสใหม่จะได้รับการออกแบบจากพื้นฐานความต้องการดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากการใช้คอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ โดยปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตที่พร้อมจะออกสมาร์ทโฟนที่ทำงานด้วย Windows Phone 7 หลายรายด้วยกันไม่ว่าจะเป็น LG, Samsung, HTC, HP, Dell, Sony Ericsson และ Toshiba รวมถึงบริษัทผู้ผลิตชิปโมบายอย่าง Qualcomm


ข้อมูลจาก: channelweb,arip

Sony เปิดตัวแอนดรอยด์โฟนถึง 2 รุ่น

รายงานข่าวล่าสุด โซนี่ อีริคสัน (Sony Ericsson) บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอีกเจ้าหนึ่งที่ถือโอกาสเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (android) ของกูเกิ้ล (Google) ในงาน MWC 2010 ถึง 2 รุ่่นด้วยกัน ได้แก่ X10 Mini และ X10 Mini Pro

Bert Nordberg ประธานบริษัทโซนี อีริคสัน กล่าวว่า สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของทางบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การสื่อสาร และความบันเทิง โดย X10Mini และ X10 Mini pro จะเป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดเล็กกว่า"บัตรเครดิต" ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเมนู และฟังก์ชันหลักๆ ในการใช้งานได้ภายในอุ้งมือเดียว ทีสำคัญมันยังใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิ้ลอีกด้วย ทั้งนี้สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นจะทำงานด้วยอินเตอร์เฟซระบบหน้าจอสัมผัส อย่างไรก็ดี X10 Mini Pro จะมาพร้อมกับคีย์บอร์ด QWERTY แบบเลื่อนได้ โดยมาพร้อมกับแอพพลิเคชัน Timescape (แบบเดียวกับทีมีใน X10) ที่รวมการสื่อสารทั้งหมดของผู้ใช้ไว้ด้วยกัน นั่นหมายความว่า ผู้ใช้สามารถมองเห็นข้อความ (SMS) ทั้งหมด อีเมล์ เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ไว้ภายในที่เดียวกัน

X10 Mini จะมีขนาดตัวเครื่องแค่ 4 นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 1.6 แตกต่างจาก X10 Mini Pro ตรงทีมันไม่มีคีย์บอร์ด หน้าจอ QVGA ระบบสัมผัสจะมีขนาด 2.55 นิ้ว (320 x 240) นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นยังสนับสนุนการเชื่อมต่อเพื่อถ่ายโอนข้อมูลด้วยเทคโนโลยี HSPA 900/2100 และ EDGE 850/900/1800/1900, HSPA 850/1900/2100 และ EDGE 850/900/1800/1900 กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล สามารถทำ geotagging บนภาพถ่ายด้วย GPS พร้อมระบบการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi และ Bluetooth เรียกได้ว่า จิ๋วแต่แจ๋วทั้งสองรุ่นเลยทีเดียว วางตลาดไตรมาสที่สองของปีนี้


ข้อมูลจาก: TechTree,arip

Samsung Wave สมาร์ทโฟน Bada OS

ในงาน Mobile World Congress 2010 ทีจัดขึ้นในกรุงบาเซโรน่า ประเทศสเปน ซัมซุง (Samsung) ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Bada ของบริษัท พร้อมด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 802.11n และ Bluetooth 3.0

สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของซัมซุงมีชื่อว่า Wave ทำงานด้วยหน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 3.3 นิ้ว ความละเอียด 800x 480 พิกเซล ภายในใช้ระบบปฏิบัติการ Bada โดยอินเตอร์เฟซที่้ใช้เป็น TouchWiz UI รุ่นที่สาม ซัมซุงอ้างว่า TouchWiz จะทำงานได้อย่างรวดเร็วด้วยโพรเซสเซอร์ความเร็วสูงของ Wave ซึ่งไม่ได้เปิดเผยว่าใช้ชิปอะไร เพียงแต่บอกว่ามันทำงานด้วยความเร็วของสัญญาณนาฬิกาที่ 1GHz (เทียบเท่ากับ Snapdragon ของ Qualomm)

ในส่วนของประสิทธิภาพของกาแสดงผลบนหน้าจอขนาดใหญ่ของ Wave จะใช้เทคโนโลยี mDNIe (mobile Digital Natural Image engine) ที่พบได้ในทีวีของบริษัท นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการเล่นไฟล์วิดีโอ DivX, MP4 และ WMV อีกทั้งยังสามารถจำลองระบบเสียงสเตอริโอรอบทิศแบบ 5.1 ที่สำคัญวิดีโอที่เล่นยังรองรับไฮเดฟที่ 720p อีกด้วย และที่พลาดไม่ได้ Samsung Wave มาพร้อมกับฟังก์ชันสนับสนุนการใช้ Social Networking ตลอดจนการให้บริการแอพสโตร์ของซัมซุง สำหรับดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน

Samsung Wave ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดอีกด้วย นั่นก็คือ Bluetooth 3.0 และความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 802.11n ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้ประสบการ์ณของการเชื่อมต่อไร้สาย โดย Samsung Wave จะวางตลาดในเดือนเมษายน ศกนี้

ข้อมูลจาก: zdnet,arip

ทีเซลส์พัฒนาแหล่งรับ UV รักษาโรคสะเก็ดเงิน ดึงต่างชาติเที่ยวไทยเชิงสุขภาพ

ทีเซลส์ขานรับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดันไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการดูแลสุขภาพด้วยชีววิทยาศาสตร์แห่งเอเชีย เดินหน้าต่อยอด 2 ผลงานเด่น "ครีมหน้าขาวยางพารา-ชุดตรวจยีนแพ้ยาเอดส์" สู่เชิงพาณิชย์ พร้อมลุยโปรเจกต์ใหม่ ใช้แสงแดดและน้ำทะเลบำบัดโรคสะเก็ดเงิน หวังดึงต่างชาติเข้ามารักษาในไทย สร้างรายได้ให้สถานพยาบาลและแหล่งท่องเที่ยวริมชายหาด

ข้อมูลจาก : Manager Online - วิทยาศาสตร์

4 หนุ่ม JSTP เตรียมสัมผัสประสบการณ์ Zero-G ดูการรั่วซึมของน้ำในอวกาศ

ปรากฏการณ์ "น้ำรั่วซึม" ที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน จุดประกายความสงสัยให้ 4 เด็กหนุ่มไทยไฟแรง คิดค้นการทดลองศึกษาพฤติกรรม "การรั่วซึมของหยดน้ำบนผิวผ้าในสภาวะไร้น้ำหนัก" บนเที่ยวบินพาราโบลากับแจกซา หวังเปิดประสบการณ์ใหม่ ต่อยอดสู่การวิจัยบนสถานีอวกาศ พร้อมชวนเด็กรุ่นใหม่หัวใจวิทย์ คิดการทดลองสนุกๆ ส่งเข้าร่วมคัดเลือกเพื่อไปทดลองที่ญี่ปุ่นปลายปีนี้

ข้อมูลจาก : Manager Online - วิทยาศาสตร์

Playstation 3 พร้อมรองรับภาพแบบ 3D ในหน้าร้อนนี้

Sony เตรียมเปิดอัพเกรดเฟิร์มแวร์เครื่องคอนโซล Play Station 3 พร้อมรองรับจอแสดงผล 3 มิติคู่ Bravia รุ่นล่าสุดในหน้าร้อนนี้

หลังจากเปิดตัว LCD TV แสดงผลสามมิติ (3D) ไปในงาน CES 2010 ที่ผ่านมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทาง Sony ก็ได้ประกาศข่าววันเปิดอัพเกรดเฟิร์มแวร์ล่าสุดของเครื่องคอนโซล Playstation 3 ให้รองรับกับการแสดงผลสามมิติควบคู่ไปกับ LCD TV Bravia สามมิติที่เพิ่งเปิดตัวไปของตนได้ โดยรายละเอียดของการประกาศดังกล่าวนั้นทางทีมงานได้เอ่ยว่า PS3 จะเป็นเครื่องเกมที่แสดงผลเกมแบบสามมิติเครื่องแรกของโลกและจะมีการปล่อยเฟิร์มแวร์อัพเดทระบบแสดงผลสามมิติกับแผ่นดิสก์ Blue-ray เพิ่มเติมอีกขั้นในอนาคต และนอกจากนั้นทางทีมงานยังได้เอ่ยถึงเครื่อง PS3 รุ่นในอนาคตที่จะมาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ความจุกว่า 1 TB อีกด้วย โดยเฟิร์มแวร์ดังกล่าวจะเปิดให้ดาวน์โหลดในฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้

Source :tomsguide.com

ข้อมูลจาก : Pantip.com : Tech Exchange - IT NEWS

Google อาจเปิดตัว Google Buzz เวอร์ชั่นใช้งานเดี่ยว

Google Buzz อาจเปิดตัวรอบ 2 ด้วยเวอร์ชั่นใช้งานเดี่ยวไม่อิงบริการ Gmail

หลังจากเปิดตัว Google Buzz บริการเสริมของ Gmail ที่เน้นการใช้งานเกี่ยวกับเครือข่ายทางสังคมให้กับผู้ใช้ไปเมื่อกลางอาทิตย์ที่ผ่านมา ล่าสุดทีมพัฒนาจาก Google ได้ประกาศแนวโน้มในการเปิดตัวบริการ Google Buzz รอบสองในแบบเวอร์ชั่นเดี่ยวแยกจากบริการ Gmail โดยทางทีมพัฒนาได้ประกาศไว้ในบล๊อกของตนว่าผลตอบรับของผู้ใช้เกี่ยวกับบริการ Google Buzz นั้นอยู่ในจำนวนที่น่าพอใจและในขณะนี้ทางทีมงานกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการเปิดตัว Google Buzz เวอร์ชั่นใช้งานอิสระจากบริการ Gmail อย่างไรก็ตามผู้ใช้เดิมที่มีการใช้ทั้งสองบริการเชื่อมต่อกันอยู่แล้วก็สามารถเลือกที่จะใช้ Google Buzz แบบปกติใน Gmail ได้ โดยมีรายงานเพิ่มเติมจากทีมพัฒนาว่าหลังจากเปิดตัว Google Buzz ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้ได้เปิดการโพสข้อความไปแล้วกว่า 9 ล้านราย

Source :reuters.com

ข้อมูลจาก : Pantip.com : Tech Exchange - IT NEWS