วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ยอดทวีตทะลุ 50 ล้านข้อความต่อวัน!!!

ทวิตเตอร์ (twitter) กำลังจัดการกับทวีต (Tweets) จากเหล่าบรรดาสมาชิกมากกว่า 50 ล้านข้อความต่อวัน ซึ่งหมายความว่า มันมีมากถึง 1.5 พันล้านทวีตต่อเดือนกันเลยทีเดียว โดยก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนธันวาคม ทวิตเตอร์เพิ่งผ่านยอดทวีตที่ 1 พันล้านไป และขยับขึ้นเป็น 1.2 พันล้านในเดือนมกราคม ทั้งนี้หากย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ยอดทวีตข้อความต่อวันอยู่ที่ 27 ล้าน เพียงแค่ 2 เดือนยอดทวีตมีอัตราการเติบโตเกือบเท่าตัวเลยก็ว่าได้

รายงานประจำเดือนมกราคมที่ผ่านมา ComScore ประเมินว่า Twitter.com มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 75 ล้านคน แต่จำนวนของข้อความที่เหล่าสมาชิกส่งหากันมีมากถึง 50 ล้านต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่แข็งแรงมาก มันดูเหมือนว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์ใช้บริการดังกล่าว เพื่อสื่อสารในระดับพื้นฐานอย่างแท้จริง

ทีมวิเคราะห์ของทวิตเตอร์โพสต์ข้อความในบล็อกว่า ในปี 2007 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ทั้งหมดเขียนข้อความ 5,000 ทวีตต่อวัน และขยับขึ้นเป็น 300,000 ทวีตต่อวันในปี 2008 ก่อนที่จะเป็น 2.5 ล้านทวีตต่อวันในปี 2009 ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา จำนวนทวีตมีการเติบโตถึง 1,400% คือ 35 ล้านต่อวัน แต่วันนี้ เรากำลังเห็นตัวเลขดังกล่าวเป็น 50 ล้านต่อวันแล้ว หรือเฉลีย 600 ทวีตต่อวินาที" อย่างไรก็ตาม ทางทวิตเตอร์ไม่ได้เปิดเผยว่า จากจำนวนทวีต 50 ล้านข้อความต่อวันนั้นมาจากผู้ใช้จำนวนเท่าใด หรือเฉลี่ยแล้วแต่ละคนส่งกี่ทวีตต่อวัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าว นอกจากจะทำให้เห็นภาพความสำเร็จทีชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยแยกประเภทกลุ่มผู้ใช้ทวิตเตอร์ออกมาได้อีกด้วย

ข้อมูลจาก: pcmag.com,arip

แซนดิสก์ผุดการ์ดหน่วยความจำ 64GB

รายงานข่าวล่าสุด แซนดิสก์ (SanDisk) บริษัทผู้ผลิตการ์ดหน่วยความจำชั้นนำได้เปิดตัวการ์ด Ultra SDXC SD รุ่นใหม่ที่มีความจุมากถึง 64GB เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่อย่างวิดีโอไฮเดฟฯ

ในงาน CES 2010 เมื่อเดือนที่แล้ว ทางพานาโซนิคก็เพิ่งจะแนะนำการ์ดหน่วยความจำ SDXC ที่มีความจุ 64GB เป็นเจ้าแรก ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบกล้องถ่ายรูป และกล้องบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง หรือ High-Definition อย่างไรก็ตาม ราคาเปิดของพานาโซนิคสำหรับการ์ดหน่วยความจำ 64GB อยู่ที่ 599.95 เหรียญฯ (ประมาณ 20,000 บาท) แต่สำหรับ Ultra SDXC 64GB ของแซนดิสก์ที่โดนตัดหน้าไปก่อนราคาเปิดถูกกว่าเกือบครึ่งหนึ่งคืออยู่ที่ 349.99 เหรียญฯ (ประมาณ 12,000 บาท)

"SDXC เป็นฟอร์แมตของการ์ดหน่วยความจำรุ่นใหม่ถัดจาก SDHC ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง" Susan Park ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ค้าปลีกของแซนดิสก์กล่าว "การ์ดหน่วยความจำ SanDisk Ultra SDXCความจุ 64GB จะสามารถให้ความเร็วที่มากพอต่อการบันทึกวิดีโอไฮเดฟ และยังได้รับการพัฒนาทางด้านความเร็วสำหรับการถ่ายภาพนิ่งอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการ์ดหน่วยความจำ SDXC ที่ได้ประกาศการรับรองถึงความเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับกล้องถ่ายรูป และกล้องบันทึกวิดีโอรุ่นต่างๆ มากมาย" การ์ดหน่วยความจำ Ultra SDXC สนับสนุนความเร็วในการเขียนข้อมูลได้สูงสุดที่ 15MB/s สำหรับความจุขนาด 64GB หมายถความว่า การ์ดรุ่นนี้สามารถบันทึกวิดีโอไฮเดฟด้วยความเร็ว 9Mbps ได้นานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ข้อมูลจาก: Hot Hardware,arip

ด่วน!!! พบบั๊กร้ายแรงใน Firefox 3.6

Integydis บริษัทผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยในรัสเซียได้ปล่อยโค้ดโจมตีช่องโหว่วิกฤตที่พบในเว็บบราวเซอร์เวอร์ชันล่าสุดของโมซิลล่า (Mozilla) นั่นก็คือ Firefox 3.6 โดยโค้ดังกล่าวสามารถกระตุ้นให้มันมีสิทธิ์ในการใช้พื้นทีหน่วยความจำ เพื่อสั่งรันโค้ดอันตรายจากบนเน็ตได้ ทั้งนี้ทางบริษัทยังได้พัฒนาเป็นโมดูล Vulndisco ในรูปแบบของส่วนเสริม (add-on) การทำงานของโปรแกรมสำหรับระบบที่สามารถนำไปใช้ได้โดยอัตโนมัติในซอฟต์แวร์ Immunity Canvas เพื่อขายให้กับผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย

"เราได้ทดลองเล่นกับช่องโหว่ดังกล่าวหลายครั้งภายในห้องวิจัยของเรา ซึ่งมันทำงานได้สำเร็จทุกครั้งไป" Evgeny Legerov ผู้ก่อตั้งบริษัท Intevydis ที่ตั้งอยู่ในกรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย "มันสามารถเข้าโจมตี Firefox 3.6 ที่ติดตั้งเข้าไปในเครื่องด้วยค่าดีฟอลต์ ซึ่งเราได้ทดสอบทั้งที่รันบนระบบปฏิบัติการ XP และ Vista" สำหรับบั๊กที่พบนี้จัดว่าเป็น Zero-Day เนื่องจากเป็นข้อผิดพลาดที่มีการเผยแพร่ก่อนที่ทางบริษัทเจ้าของซอฟต์แวร์จะได้จดทำแพตช์อุดช่องโหว่ออกมา

โมซิลล่าได้ออก Firefox 3.5.7 (สำหรับใครที่ยังไม่ได้อัพเกรดเป็น Firefox 3.6) ในระหว่างสัปดาห์ เพื่อป้องกันการโจมตีจากช่องโหว่ดังกล่าวที่อ้างว่า สามารถได้สิทธิ์ในการเข้าขโมยหน่วยความจำสำหรับรันโค้ดอันตรายได้ Legerov กล่าวว่า ข้อผิดพลาดที่ได้รับการแก้ไขใน Firefox 3.5.7 เป็นคนละแห่งที่ถูกใช้ห้องวิจัย อย่างไรก็ตาม โค้ดดังกล่าวจะได้ไปก็ต่อเมื่อซื้อชุดซอฟต์แวร์ข้างต้น ทางด้านโมโซิลล่าออกมาแถลงว่า "โมซิลล่าให้ความสำคัญกับช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า คำอ้างดังกล่าวเป็นจริง เราให้คุณค่ากับนักวิจัยระบบรักษาความปลอดภัยที่เปิดเผยช่องโหว่ และต้องการให้พวกเขาทำงานร่วมกับเรา เพื่อให้แน่ใจว่า ช่องโหว่ร้ายแรงได้รับการแก้ไขแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้"

ช้อมูลจาก: Inquirer,arip

ซัมซุงออก"กล้องวิดีโอพกพา"ซูม 3 เท่า

ช่วงนี้ดูเหมือนกระแสกล้องวิดีโอแบบพกพา (Pocket Camcorder) จะมาแรงเป็นพิเศษ หลังจากที่เมื่อเช้าเพิ่งแนะนำ HP V1020h ที่เปิดตัวในงาน PMA 2010 ช่วงบ่ายของวันนี้ ทางซัมซุง (Samsung) ก็เปิดตัวกล้องวิดีโอพกพาที่มีดีไซน์แบบ Flip ถึง 2 รุ่นด้วยกัน

ซัมซุง (Samsung) เปิดตัวกล้องแคมคอร์ดเดอร์ฟูลเอชดีแบบพกพาถึงสองรุ่น โดยรุ่น HMX-U20 จะมาพร้อมกับคุฒสมบัติเด่นคือ เลนส์ซูมที่สามารถขยายได้สูงสุดถึง 3 เท่า พร้อมเคเบิ้ลเชื่อมต่อ USB เพื่ออัพโหลดวิดีโอขึ้นไปบนพีซี นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันป้องกันภาพสั่นไหว (image stabilisation) ให้อีกด้วย

นอกจากด้านหน้าจะมีเลนส์ซูมขนาดใหญ่แล้ว ด้านหลังของมันจะประกอบด้วย LCD ขนาด 2 นิ้ว โดยเซ็นเซอร์ CMOS 1/2.3 นิ้วที่อยู่ภานยในสามารถจับภาพวิดีโอที่ความละเอียดได้ 1920 x 1080 พิกเซลที่อัตราเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที (Full HD) ด้วยเทคโนโลยีการบีบอัด H.264 แถมยังสามารถตั้งเวลาบันทึกทุกๆ 5 10 หรือ 30 วินาทีได้อีกด้วย ส่วนความสามารถในการถ่ายภาพนิ่งจะละเอียดถึง 10 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว

สำหรับ HMX-U15 จะมีราคาถูกกว่า และสามารถถ่ายภาพนิ่งที่ความละเอียดสูงกว่า ถึง 14 ล้านพิกเซล แต่แลกกับการไม่มีฟังก์ชันซูม ทั้งสองรุ่นสนับสนุนการใช้งานการ์ดหน่วยความจำ SD/SDHC สนนราคาของ U15 จะอยู่ที่ 229.99 เหรียญฯ (ประมาณ 7,800 บาท) ในขณะที่ U20 จะมีราคา 249.99 เหรียญฯ (ประมาณ 8,500 บาท)

ข้อมูลจาก: pcmag,arip

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Google กำลังจะทำให้คุณ "โง่" หรือไม่?

คุณผู้อ่านเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมครับว่า ผลจากการที่เอะอะพอไม่รู้อะไรเป็นต้องถามกูเกิ้ล (Google) ทันที จะส่งผลให้เรากลายเป็นคนขี้เกียจในการค้นคว้าข้อมูล หรือละเลยการใช้สมองเพื่อจดจำความรู้ต่างๆ ไป (เพราะกูเกิ้ลช่วยจำไว้ให้หมดแล้ว เพียงไม่กี่คลิกก็รู้) หากเป็นเช่นนี้ไปในานๆ ในที่สุดเราอาจจะโง่ลงก็ได้

ผลจากการศึกษาวิจัยโดย Pew Internet Research ในสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปออกมาว่า "กูเกิ้ลจะไม่ทำให้พวกเราโง่" โดยผลสรุปดังกล่าวได้จากการสอบถามนักคิด และผู้ทีอยู่ในธุรกิจเทคโนโลยี 895 รายในประเด็นต่างๆ เกียวกับ "The Future of Internet 2020" ซึ่งในที่นี้รวมถึงคำถามที่ว่า มนุษย์เรากำลังยึดติดกับเสิร์ชเอ็นจิ้นมากเกินไป หรือเปล่า? (ประมาณว่า หากวันใดวันหนึ่งขาดมันไปแล้วเราจะโง่ไหมเนี่ย?) ปรากฎว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นว่า กูเกิ้ลไม่ทำให้เราโง่อย่างแน่นอน ในทางตรงกันข้าม มันยังช่วยให้เราเป็นคนทีมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น รวมถึงช่วยสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ได้ลึกซึ้งกว่าเดิมอีกด้วย ไม่นับรวมทักษะของการสือสารที่เกิดจากการอ่านเขียนกันมากขึ้น

ทั้งนี้จากผลสำรวจ 76% กล่าวว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า ผู้คนทีใช้อินเทอร์เน็ตจะได้รับการพัฒนาความฉลาดให้กับตัวเอง เนื่องจากความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลที่มากกว่า ทำให้คนเราฉลาดขึ้น และได้เลือกตัดสินใจในสิ่งที่ดีกว่า กูเกิ้ลนอกจากจะไม่ได้ทำให้เราโง่เท่านั้น แต่คนที่ใช้อินเทอร์เน็ต (เป็น) จะได้โอกาสสะสมความรู้ และข้อมูลในการตัดสินใจที่ดีกว่าในอดีต หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มีความฉลาดขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม จากผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด ประมาณ 21% ไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่า ในอีก 10 ปีจากนี้ไป ผู้ที่ใช้อินเทอร์้เน็ตจะไม่ได้รับการพัฒนาสมองเท่าที่ควร อีกทั้งยังมีไอคิวต่ำลงอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ทีใช้อินเทอร์เน็ตมากเกินไปรับรองโง่แน่ แล้วคุณผู้อ่านล่ะครับ คิดว่า พวกเราจะโง่ลงไหม หากใช้กูเกิ้ล และพึ่งข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแทบตลอดเวลาอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ข้อมูลจาก: PCMAG,arip

ตู้หยอดเหรียญฯ "หุ่นยนต์จับลูกบอล"

สำหรับใครที่ชื่นชอบตู้จับตุ๊กตา (Doll Catcher) ทีผู้เล่นจะต้องหยอดเหรียญฯ เพื่อแลกกับการใช้จอยสติ๊กบังคับแขนกลเลือกจับตุ๊กตาที่ต้องการจากในตู้ แล้วหย่อนลงในช่องทางออก ล่าสุดตู้ดังกล่าวได้รับการพัฒนาให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก แทนที่จะเป็นการบังคับแขนกลก็เปลี่ยนเป็นบังคับหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์จิ๋วแทน...ว้าว!!!

ROBO CATCHER จากบริษัท Mechatrax เป็นตู้หยอดเหรียญฯทีอัพเกรดจากตู้จับตุ๊กตาแบบเดิมๆ ที่ใช้แขนกลไปสู่การใช้หุ่นยนต์ขนาดเล็กเดินด้วยสองเท้า และมีมือที่สามารถหยิบจับลูกบอลพลาสติกใสทีภายในมีรางวัลซ่อนอยู่ โดยผู้เล่นจะต้องใช้จอยสติ๊กบังคับให้หุ่นยนต์เดินไปหยุดอยู่หน้าบอลรางวัลที่ต้องการแล้วสั่งให้มันหยิบขึ้นมา เพื่อนำมันไปหย่อนลงในช่องเช่นเดียวกับตู้จับตุ๊กตา ฟังดูน่าสนุกดีนะครับ ลองดูตัวอย่างการเล่นจากคลิปวิดีโอข้างล่างนี้


อย่างไรก็ตาม ROBO CATCHER ตู้บังคับหุ่นยนต์จับรางวัลจะเปิดให้บริการในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ถ้าคุณผู้อ่านอยากมีไว้เล่นเองสักเครื่องก็สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงจากบริษัท สนนราคาตู้หนึ่งก็แค่ 990,000 เยน หรือประมาณ 360,000 บาทเท่านัน...อุ๊ปส์!!!


ข้อมูลจาก: gigazine,arip